0
0
ได้ยินแว่วๆในวงการเสริมความงามว่า eptq filler เขาปัง ใครอยากรู้ว่าดียังไง เติมตรงไหน มารวมตัวกันตรงนี้เลย! ฟิลเลอร์ E.P.T.Q. หรือ Epitique เป็นฟิลเลอร์สัญชาติเกาหลี น้องใหม่ของวงการ ผลิตโดยบริษัท Jetema ประเทศเกาหลีใต้ในปี 2020 และเพิ่งได้รับการรับรองจากองค์กรอาหารและยาของไทยไปหมาดๆ ที่น้องคนนี้เค้าถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่เพียงเพราะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นน้องใหม่ แต่ยังมาพร้อมคุณภาพระดับสากล จากการใช้สารตั้งต้นมีความบริสุทธิ์สูงผสานกระบวนการผลิตที่ทันสมัยอย่าง Zeep Technology ที่ไม่ทำให้เกิดสารตกค้าง ซึ่งอาจก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองอย่างรุนแรง การออกแบบให้ตัวยามีโครงสร้างโมเลกุลแบบรังผึ้งเสริมความหนืดและคงตัวได้ดี มีขนาดเล็ก และผสมกับยาชา จึงลดอาการเจ็บแสบในการฉีดเข้าสู่ผิว หลายคนคงสงสัยแล้วว่าฟิลเลอร์ตัวนี้เติมตรงไหนได้บ้าง?
จริงๆแล้วฟิลเลอร์ E.P.T.Q. มีตัวยาถึง 6 รุ่นด้วยกัน แต่ในปัจจุบันยังคงมีเพียง 3 รุ่นที่ได้รับการรับรองจากอย.ไทย ได้แก่ S100 S300 และ S500 แบบผสมยาชา
กรอบหน้า
บริเวณกรอบหน้าเน้นการเสริมโครงสร้างของใบหน้าให้มีมิติ มีกรอบชัดเจน เข้ารูปมากยิ่งขึ้น จึงต้องการตัวยารุ่นที่มีความหนืดสูง มีความคงตัว เพื่อให้คงสภาพได้นาน S500 ของ E.P.T.Q. มีเนื้อหนา สามารถช่วยเสริมความแข็งแรงให้โครงสร้าง ปรับรูปหน้าและแก้ไขปัญหาผิวหน้าหนักๆได้
หน้าผากและขมับ
สำหรับใครที่มีริ้วรอยบางๆบริเวณขมับและหน้าผาก ต้องการเติมเต็มร่องให้ดูหน้าฟูเอิบอิ่มมากขึ้น สามารถใช้รุ่นที่มีความละเอียดสูง ยืดหยุ่นแต่ยังคงความธรรมชาติ อย่าง S100 และ S300 เพียง 2-3 cc สำหรับหน้าผาก และ 2-4 cc สำหรับขมับ แต่ในกรณีที่พื้นฐานผิวมีความยุบลึก หรืออยากเสริมความนูน เสริมโหงวเฮ้งปังๆ สามารถเพิ่มตัวยาได้อีกจุดละ 1 cc
ผิวใต้ตา
ผิวบริเวณรอบดวงตาเป็นบริเวณที่บอบบางที่สุด จึงต้องการการดูแลเป็นพิเศษมากกว่าบริเวณอื่น การใช้ฟิลเลอร์ควรในรุ่นที่มีเนื้อละเอียด มีความละมุนดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็ง อย่าง S100 แต่ในกรณีที่มีอายุมาก มีร่องใต้ตา เบ้าตาลึก ยากต่อการฟื้นฟูสามารถใช้รุ่น S500 ได้ เพียง 1-2 cc คุณก็สามารถเผยผิวหน้าอ่อนเยาว์ได้อย่างชัดเจน
จมูก
ส่วนใหญ่แล้วบริเวณจมูก คนไข้มักต้องการเสริมโครงสร้างให้ดูโด่งโดดเด่นขึ้น ดังนั้นในการยกเนื้อจมูกให้สูงขึ้น จำเป็นต้องใช้ตัวยาที่มีความหนืดสูง สามารถปั้นทรงได้ และรองรับน้ำหนักได้ดี S500 จึงตอบโจทย์ที่สุด นอกจากจะช่วยเติมสันจมูกเพิ่มมิติของใบหน้าแล้ว ยังออกแบบทรงได้อย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องผ่าตัดแบบซิลิโคนนั่นเอง
คาง
หลายคนมีโครงสร้างใบหน้าแบบคางเล็กสั้น คางตัด คางบุ๋ม แต่ไม่ต้องการผ่าตัดเสริมคางด้วยซิลิโคน เพราะมีความเสี่ยงจะโดนเส้นประสาทโดยรอบได้ง่าย ฟิลเลอร์จึงเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากการเน้นแก้ปัญหาด้านโครงสร้าง ต้องใช้เนื้อฟิลเลอร์ที่มีความแข็งแรงในการยืดเกาะชั้นผิวภายใน S500 เป็นรุ่นที่เอาอยู่ เหมาะสมที่สุดในการสร้างคาง มีความยืดหยุ่น เติม 1-2 cc ก็เผยผลลัพธ์อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ดูเป็นก้อนไต
แก้ม
ปัญหาใบหน้าบริเวณแก้มมักมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ในบางกรณีต้องการเพียงเพิ่มความอิ่มฟูให้ใบหน้าดูไม่โทรม เพราะหากใบหน้ามีร่องลึกโหล และยิ่งเผยโหนกแก้ม ทำให้แลดูแก่กว่าวัย สามารถเติมฟิลเลอร์เนื้อเบาอย่าง S300 แต่หากมีการยุบตัวของผิวเยอะในคนสูงวัยอาจต้องใช้ S500 ช่วยแก้ปัญหาที่หนักกว่าได้
ริมฝีปาก
บริเวณนี้มีผิวที่บอบบาง ต้องการการปรนนิบัติอย่างอ่อนโยน S100 จึงเพียงพอต่อการเพิ่มความชุ่มชื่น อวบอิ่มน่าจุ๊บ แต่หากสาวๆคนไหนที่อยากเกาะเทรนด์ปากกระจับสไตล์เกาหลี หรือปากคาเดเชี่ยนแบบสายฝอ สามารถใช้รุ่นที่มีเนื้อหนากว่าอย่าง S300 และ S500 ได้ ปกติแล้วเราจะเติมฟิลเลอร์ปากเพียง 1-2 cc ก็จะให้ผลลัพธ์นาน 12-24 แล้วหละค่ะ
สรุป
จะเห็นว่าความปังของฟิลเลอร์น้องใหม่ไม่ธรรมดาเลยใช่มั้ยคะ ของคุณภาพดีราคามิตรภาพมีอยู่จริง อย่างไรก็ตามแนะนำว่าหนุ่มๆสาวๆควรให้แพทย์ทำการประเมินพื้นฐานใบหน้าก่อนตัดสินใจทำการรักษา เพื่อจะได้ตกลงผลที่คาดว่าจะได้รับร่วมกัน และเพราะความแมสไม่หยุดของเจ้าตัวนี้ ของปลอมเลยมีมากมายในท้องตลาด อย่าลืมเชคว่าเป็นผลิตภัณฑ์แท้โดยให้แพทย์แสดงเลขอย. และข้อมูลจริงที่สามารถตรวจสอบได้
